
ประชาไท Prachatai.com
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 5 เม.ย. 2568 เวลาประมาณ 10.45 น. สืบเนื่องจากกลุ่ม Bright Future กลุ่มแรงงานข้ามชาติพม่าในไทยระบุว่า จะมีการจัดชุมนุมหน้า UN โดยการใส่เสื้อดำ และตะโกนไล่มินอ่องหล่าย ผู้นำเผด็จการทหารพม่า ที่เพิ่งมาร่วมประชุม BIMSTEC เมื่อ 3-4 เม.ย.ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลา 10.20 น. รถเครื่องเสียง ของกลุ่ม ปกป้องสถาบัน นำโดย อานนท์ กลิ่นแก้ว ประธานกลุ่ม ศปปส. ธนเดช ตุลยลักษณะ ประธาน อาชีวะพ่อกูวิษณุกรรม และ ทรงชัย เนียมหอม ประธานประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบัน ได้มาชุมนุมที่หน้า UN ก่อน
ต่อมา 10.45 น. เมื่อวีระ แสงทอง หนึ่งในกลุ่ม Bright Future และเป็นผู้จัดมาถึง กลุ่มปกป้องสถาบัน พยายามกรูกันมาทำร้ายร่างกายวีระ ขณะที่ตำรวจพยายามคุ้มกัน และรักษาความปลอดภัย
จากนั้น ตำรวจได้พาตัว วีระ ออกนอกพื้นที่ และกลุ่มปกป้องสถาบันกลับไปชุมนุมหน้า UN ที่เดิม
ภาพประกอบ - วีระ คือชายเสื้อดำที่ตำรวจกันตัวออกขณะผู้ชุมนุมอีกฝั่งกำลังเข้ามาทำร้าย (ภาพแรก)
.....
Bright Future ชุมนุมต้าน 'มินอ่องหล่าย' ไม่ทันเริ่ม กลุ่มปกป้องสถาบันบุกทำร้าย ตร.พาหลบ

5 เมษายน 2568
แรงงานข้ามชาติชุมนุมประท้วงไล่ "มินอ่องหล่าย" แต่ไม่ทันได้เริ่ม กลุ่มปกป้องสถาบันพยายามเข้ารุมผู้จัดจนตำรวจต้องพาตัวออก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 5 เม.ย. 2568 เวลาประมาณ 10.45 น. สืบเนื่องจากกลุ่ม Bright Future กลุ่มแรงงานข้ามชาติพม่าในไทยระบุว่า จะมีการจัดชุมนุมหน้า UN โดยการใส่เสื้อดำ และตะโกนไล่มินอ่องหล่าย ผู้นำเผด็จการทหารพม่า ที่เพิ่งมาร่วมประชุม BIMSTEC เมื่อ 3-4 เม.ย.ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลา 10.20 น. รถเครื่องเสียง ของกลุ่ม ปกป้องสถาบัน นำโดย อานนท์ กลิ่นแก้ว ประธานกลุ่ม ศปปส. ธนเดช ตุลยลักษณะ ประธาน อาชีวะพ่อกูวิษณุกรรม และ ทรงชัย เนียมหอม ประธานประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบัน ได้มาชุมนุมที่หน้า UN ก่อน
ต่อมา 10.45 น. เมื่อวีระ แสงทอง หนึ่งในกลุ่ม Bright Future และเป็นผู้จัดมาถึง กลุ่มปกป้องสถาบัน ทรงชัยได้เดินเข้าไปพยายามล็อกคอวีระแต่วีระปัดออกทำให้จากนั้นทรงชัยยังคงวิ่งตามพร้อมกับมีคนกรูกันเข้าไปทำร้ายร่างกายวีระ ขณะที่ตำรวจพยายามคุ้มกัน และรักษาความปลอดภัย

ทรงชัย เนียมหอม(เสื้อสีน้ำเงิน) กำลังพุ่งเข้าหาวีระ(เสื้อดำ) แสงทองที่กำลังเดินเข้าพื้นที่มาทำกิจกรรมประท้วงไล่มินอ่องหล่าย ภาพโดย แมวส้ม



วีระ ชายเสื้อดำที่ตำรวจกันตัวออกขณะผู้ชุมนุมอีกฝั่งกำลังเข้ามาทำร้าย
.jpg)
อานนท์ กลิ่นแก้วขณะปราศรัยบนรถ

วีระหลังจากตำรวจเข้ากันตัวออกจากกลุ่มผู้ชุมนุมอีกฝั่ง ภาพโดย แมวส้ม
จากนั้น ตำรวจได้พาตัว วีระ ออกนอกพื้นที่ และกลุ่มปกป้องสถาบันกลับไปชุมนุมหน้า UN ที่เดิม อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวไม่ทราบว่าภายหลังทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัววีระไปที่ใด
ทางด้าน The Reporter สัมภาษณ์อานนท์ เขากล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ได้ทราบถึงการชุมนุมของชาวพม่าและจะมีคนไทยมาร่วมด้วย แต่เขาไม่เห็นเหตุการณ์ขณะเกิดการปะทะกัน แต่ก็ได้ห้ามแล้วเพราะไม่อยากให้มีปัญหาและอยากให้ทางเจ้าหน้าที่เป็นคนจัดการ
"เพราะว่าต่างด้าวเข้ามาเคลื่อนไหวทางการเมืองในประเทศไทยมันไม่ควรอย่างยิ่ง จะผิดกฎหมายมั้ยจะผลักดันออกกลับมั้ย ผมว่าถ้ามินอ่องหล่ายยังไม่กลับก็ไปพบทำหนังสือถึงเลยว่าพวกนี้เข้ามาชุมนุมในประเทศไทยต่อต้านรัฐบาลของพม่าแล้วมาเคลื่อนไหวในประเทศไทย ผมถามว่ามันก็ต้องไปเคลื่อนไหวในประเทศพม่าสิ" ประธานกลุ่ม ศปปส.ให้เหตุผล
อานนท์ยังกล่าวด้วยว่า ชาวพม่ากลุ่มนี้เข้ามาพาแรงงานข้ามชาติมาถือป้ายประท้วงกันตอนวันแรงงานปี 2565 แต่เขาไม่เคยเห็นวีระมาขายแรงงานหรือได้บัตรเข้ามาทำงานหรือไม่อย่างไร และเขาไม่เห็นด้วยที่คนกลุ่มนี้จะมาเคลื่อนไหวทางการเมืองในประเทศไทย ถ้าจะเรียกร้องอะไรก็ไปเรียกร้องที่ประเทศพม่า แล้วก็ให้รัฐต่อรัฐจัดการกันเอง
"มึงคนละชั้นกัน บ้านเราเราเป็นพลเมืองชั้นหนึ่ง เรามีเกียรติมีศักดิ์ศรีของเรา ปล่อยพวกนี้มาเหยียบย่ำกฎหมายของไทยมันก็กระทืบหน้าคนไทยทุกคนแหละ เพราะว่ากฎหมายมีไว้คุ้มครองคนไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งมันชูป้ายยกเลิกมาตรา 112 ยกเลิกมาตรา 116 117 ผมถามว่าเราฝ่ายปกป้องสถาบันจะอยู่นิ่งเฉยได้อย่างไร ผมทำตามรัฐธรรมนูญ รัฐธรรมนูญอนุญาตให้ผมทำแบบนี้ ผมก็ทำแบบนี้" อานนท์กล่าว
ประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบันฯ แจ้งความ "วีระ" เป็นอั้งยี่
เมื่อเวลา 11. 46 น. หลังเกิดเหตุทำร้ายร่างกายแกนนำกลุ่ม Bright Future ทรงชัย เนียมหอม ประธานกลุ่มประชาภักดิ์พิทักษ์สถาบันฯ ได้เดินทางมาแจ้งความกับตำรวจ สน.นางเลิ้ง เอาผิดวีระ แสงทอง
ทรงชัย ให้สัมภาษณ์หลังพบพนักงานสอบสวน เผยว่า การชุมนุมหน้า UN ของกลุ่มปกป้องสถาบันฯ วันนี้ สืบเนื่องจากวีระ แสงทอง ได้ประกาศผ่านสื่อโซเชียลฯ ยุยงปลุกปั่นให้ชาวเมียนมาออกมาประท้วงรัฐบาลไทย และประท้วงรัฐบาลทหารพม่า ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดเงื่อนไขตามรัฐธรรมนูญของไทย ซึ่งรัฐธรรมนูญไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติไม่ว่าสัญชาติใดก็ตามแต่ชุมนุมทางการเมืองบนผืนแผ่นดินไทย และการกระทำนี้เข้าข่ายยุยงปลุกปั่น และแทรกแซงกิจการภายในของประเทศไทย

“แทรกแซงเต็มๆ เพราะว่ามีการไปดึง UN เข้ามาร่วม และก็บอกให้ UN บีบบังคับรัฐบาลไทยกระทำตามที่ตนต้องการ ซ่องสุมกำลังพล เพื่อมาต่อต้านรัฐบาลของประเทศตัวเอง แต่มาก่อเหตุในราชอาณาจักรไทย ซึ่งไม่ถูกต้อง มันส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้” ทรงชัย กล่าว
ทรงชัย กล่าวอ้างว่า ก่อนหน้านี้ วีระ แสงทอง เคยเคลื่อนไหวเรียกร้องให้มีการยกเลิกมาตรา 112 เมื่อปี 2564 ก็ได้นำแรงงานต่างด้าวที่เป็นสมาชิกของเขา ร่วมกันถือป้าย ปราศรัยให้ยกเลิกมาตรา 112 มาตรา 116 และมาตรา 117
ประธานประชาภักดิ์ฯ ระบุว่า วันนี้มาแจ้งความเอาผิดต่อวีระ แสงทอง ละเมิดรัฐธรรมนูญ หมวด 3 ว่าด้วยสิทธิและเสรีภาพของปวงชนชาวไทย มาตรา 25 ว่าด้วย ‘อั้งยี่ ซ่องโจร’ และเชิญชวนให้ผู้อื่นก่อการจลาจล โดยการเผยแพร่โฆษณาผ่านอินเทอร์เน็ต
ทรงชัย กล่าวว่า เหตุการปะทะที่หน้า UN เป็นการระงับยับยั้ง เพราะประชาชนไทยอดทนไม่ได้ ไม่อยากมีเรื่องปะทะ เราเลยออกมาก่อนเวลาตามที่เขานัดเพื่อเตือนเขาว่าอย่ามานะ เพราะว่ามันวุ่นวายมากพอแล้ว แต่เขายังดื้อดึงเยาะเย้ยถากถางเหยียบย่ำพวกเรา ทำให้พวกเราอดทนไม่ไหวกับการกระทำของเขา และเป็นชนวนเหตุของเหตุการณ์ดังกล่าว
“อยากฝากถึงชาวต่างด้าว หรือใครก็ตามแต่ พม่า ลาว เวียดนาม อะไรก็ตามแต่ ถ้าเข้ามาประเทศไทย มาทำงาน มาพักผ่อน มาเที่ยว มาเถอะ เรายินดีต้อนรับ แต่การเข้ามาด้วยการทุจริต.. หรือใช้พื้นที่ประเทศไทยในการเป็นแหล่งกบดาน ซ่องสุม เพื่อก่อการร้ายประเทศตัวเอง อย่าทำแบบนั้นเลย มาทำงานกันเถอะ ทางประเทศไทยยินดีต้อนรับ” ทรงชัย กล่าว
ทรงชัย กล่าวว่า สำหรับแรงงานข้ามชาติที่เข้ามาอย่างถูกต้อง เขาไม่ขัดข้อง ยินดีด้วย เพราะว่าเราเข้าใจว่าแรงงานไม่มี ลงทะเบียนให้ถูกต้อง และเข้ามาทำงานกัน แต่ไม่ใช่มาเพื่อก่อการชุมนุมจลาจล มาฟอกตัว และฟอกเงิน
“ที่ออกมาต่อต้านและปราบปรามร่วมกับเจ้าหน้าที่รัฐ คือกลุ่มที่เข้าเมืองผิดกฎหมาย ลักลอบทำงานอาชีพต้องห้ามตามที่ทางรัฐมนตรีกำหนดไว้ ประเภทเปิดร้ายขายของ เปิดร้านโชห่วยใหญ่โตแข่งกับคนไทย อันนี้ไม่ได้ เราตรวจสอบส่วนนี้เท่านั้น ส่วนคนอื่นๆ เข้ามาผิดหรือถูกกฎหมายก็แล้วแต่ ถ้าคุณทำงานโรงงาน ก่อสร้าง เราไม่ยุ่ง เราไม่แตะ” ทรงชัย กล่าว
https://prachatai.com/journal/2025/04/112549